6489 Views |
เพิ่มความมั่นใจกลับคืนมาให้เราและคนที่เรารัก ด้วยการรักษาการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ และการตรวจหาเชื้อก่อโรคบริเวณจุดซ่อนเร้น ด้วยเทคนิคการตรวจระดับDNA ที่มีความแม่ยำสูง พร้อมการรักษาที่ครอบคลุมเมื่อพบการติดเชื้อ เพื่อลดความรุนแรง ลดการติดเชื้อ และป้องกันการการเป็นซ้ำเรื้อรัง เพื่อสุขภาพทางเพศและความสัมพันธ์ที่ดี
การตรวจเช็คสุขภาพบริเวณจุดซ่อนเร้น ช่วยลดอาการและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ ปลดล๊อคความกังวล เสริมสร้างความมั่นใจจากการมีเพศสัมพันธ์
การตรวจรักษาอาการผิดปกติ ในบริเวณจุดซ่อนเร้น
อัตราค่ารักษาพยาบาล (ณ ปัจจุบัน ถึง ธันวาคม 2565)
1. ตรวจรักษากลุ่มโรค หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และแผลริมอ่อน
2. ตรวจสุขภาพและการตรวจหาการเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น
มาตรการเก็บรักษาความปลอดภัย
ในการจัดเก็บเอกสารและข้อมูลการรักษา
มั่นใจในการดูแลจัดเก็บข้อมูลการรักษาอย่างปลอดภัย โดยบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลและเอกสารการรักษาได้ ผู้รับบริการจำเป็นต้องเข้ามารับผลตรวจด้วยตัวเองเท่านั้น ยกเว้นผู้รับบริการแจ้งความประสงค์ให้แจ้งผลตรวจทางโทรศัพท์ หรือทาง LINE OA
ติดต่อสอบถาม และนัดคิวเข้ารับบริการ
การตรวจเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แบบ PCR คืออะไร?
ในปัจจุบันโรคดังกล่าวสามารถรักษาและป้องกันการเป็นซ้ำ ให้หายขาดจากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะที่จำเพาะกับเชื้อก่อนโรคนั้นๆ โดยแพทย์จะตรวจประเมินและเลือกใช้ยาที่จำเพาะกับเชื้อก่อโรคที่แตกต่างกันไป รวมถึงพิจารณาส่งตรวจหาเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ด้วยเทคนิค PCR ซึ่งเป็นการตรวจหา DNA ของเชื้อก่อโรค เพื่อประสิทธิภาพการรักษาและการป้องกันการเป็นซ้ำได้ดียิ่งขึ้น
ตรวจหาเชื้อด้วย เทคนิค Multiple PCR and reverse hybridzation for STD11 เป็นการตรวจหาเชื้อในระดับ DNA ทั้ง 11 ชนิด
ความไว (sensitivity) สูง
ความจำเพาะ (specificity) สูง
นวัตกรรมแม่นยำ สูง ความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด
รายงานผลการติดเชื้อทั้งหมด 11 ชนิด
1.Chlamydia trachomatis (A-Z) ก่อโรคหนองในเทียม
2.Chlamydia trachomatis (L1-L3) ก่อโรคหนองในเทียม และช่องคลอดอักเสบ
3.Haemophilus ducreyi ก่อโรคแผลเริมอ่อน บริเวณอวัยวะเพศ
4.Herper simplex virus 1 (HSV1) ก่อโรคแผลเริม บริเวณปาก จมูก
5.Herper simplex virus 2 (HSV2) ก่อโรคแผลเริม บริเวณอวัยวะเพศ แสดงอาการรุนแรงในครั้งแรก และมักเกิดซ้ำได้
6.Mycoplasma genitalium แสดงอาการคล้ายหนองในเทียมและหนองในแท้
7.ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะ และปวดอัณฑะ หรือมีหนองไหลออกจากปลายองคชาต ในหญิงมีอาการปวดท้องน้อย เจ็บตอนร่วมเพศ ปวดตอนถ่ายปัสสาวะ มีตกขาวผิดปกติ และมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ
8.Mycoplasma hominis ก่อโรคช่องคลอดอักเสบ
9.Trichomonas vaginalis เป็นเชื้อโปรโตซัว ทำให้เกิดตกขาวผิดปกติ
10.Neisseria gonorrhoeae ก่อโรคหนองในแท้ แสดงอาการในเพศชาย และเพศหญิง หากไม่ได้รับการรักษาอาจแพร่เข้าสู่อวัยวะในระบบสืบพันธุ์ ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก(เป็นหมัน)ได้ และก่อโรคที่มดลูกและท่อทางเดินรังไข่ ทำให้เกิดโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ
11.Treponema pallidum ก่อโรคซิฟิลิส อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหากไม่ได้รับการรักษาวิธีการตรวจ และการเตรียมพร้อมก่อนตรวจ