การเลือกวิธีคุมกำเนิด
- เลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดก่อน คือ วิธีที่มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ เช่น ฝังยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมกำเนิด และห่วงอนามัย
- เลือกระยะเวลาคุมกำเนิด คุมกำเนิดระยะสั้น เช่น การทานยาคุม และการฉีดยาคุม หรือการคุมกำเนิดระยะยาว เช่นการฝังยาคุมกำเนิด และห่วงอนามัย
- ใช้การคุมเสริมสองชนิด (Dual contraception) คือการใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับการคุมกำเนิดหลัก เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และป้องกันการตั้งครรภ์
- ตัดสินใจคุมกำเนิดให้เร็วที่สุด
- ปรึกษาแพทย์หาพบอาการผิดปกติจากการคุมกำเนิด
เริ่มคุมกำเนิดตอนไหน?
- คุมกำเนิดในช่วง 2-5 วัน นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา
ฉีดยาคุมกำเนิดชนิด 4สัปดาห์ (ฮอร์โมนรวม)
"ทางเลือกใหม่ในการคุมกำเนิด...เพียงเดือนละครั้ง"
ประกอบด้วยฮอร์โมนสองชนิด คล้ายกับยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม แต่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดเหมือนธรรมชาติ และฮอร์โมนโปรเจสตินน้อยกว่ายาฉีดแบบดั้งเดิม
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพคุมกำเนิดดี (โอกาสตั้งครรภ์ 1:500 คนในหนึ่งปี)
- ควบคุมประจำเดือนให้มาสม่ำเสมอ
- ลดอาการปวด ประจำเดือน
- ไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว
- ไม่ส่งผลต่อมวลกระดูก
- จำง่ายฉีดยาเดือนละครั้ง ไม่ต้องพกแผงยาคุม
- กลับมาตั้งครรภ์ได้เร็ว หลังหยุดใช้ยา
ข้อสังเกต
- อาจมีประจำเดือนมาไม่ตรงวันตามรอบเดือน
- อาจมีอารมณ์แปรปรวน
- ไม่ควรใช้ในสตรีที่ให้นมบุตร
ฉีดยาคุมกำเนิดชนิด 12สัปดาห์ (ฮอร์โมนเดี่ยว)
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพคุมกำเนิดปานกลาง(โอกาสตั้งครรภ์ 6:100 คนในหนึ่งปี)
- ลดอาการปวดประจำเดือน
- สะดวกไม่ต้องฉีดยาบ่อย
- สำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก
ข้อสังเกต
- ส่งผลให้ไม่มีประจำเดือน
- ประจำเดือนกะปริบกะปรอย
- ยากระตุ้นให้อยากทานอาหารมากขึ้น หากไม่ควบคุมอาหาร ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
- กลับมาตั้งครรภ์ได้ช้าหลังหยุดฉีด
- ส่งผลให้มวลกระดูกบางระหว่างฉีดยา (มวลจะเพิ่มขึ้นหลังหยุดยา)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม | นัดคิวเข้ารับบริการ